Select your language TH EN

เภสัชวัตถุ พืชวัตถุ thai-herbs.thdata.co thdata.co

ขับน้ำคาวปลา บำรุงโลหิต ARACEAE วงศ์บอน พืชจำพวกหัวเหง้า

อ่านบทความอัตโนมัติ

ชื่อไทย: สิงหโมรา

ชื่อท้องถิ่น: ว่านสิงหโมรา ผักหนามฝรั่ง (กรุงเทพฯ)

ชื่อสามัญ: -

ชื่อวิทยาศาสตร์: Cyrtosperma johnstonii (N.E.Br.) N.E.Br.

ชื่อวงศ์: ARACEAE

สกุล: Cyrtosperma

สปีชีส์: johnstonii

ชื่อพ้อง: Alocasia johnstonii W.Bull ex T.Moore & Mast.

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:

ต้นสิงหโมรา เป็นไม้ล้มลุก มีหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นสั้นพ้นผิวดินขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ลำต้นเป็นสีชมพูอ่อน ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด

ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเป็นกระจุกใกล้ราก แทงออกมาจากหัวใต้ดิน ลักษณะของใบเป็นรูปเงี่ยงใบหอกถึงรูปหัวลูกศร ยาวได้ถึง 60 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบเป็นรูปเงี่ยงลูกศร ส่วนขอบใบเรียบ ท้องใบและหลังใบเรียบ ส่วนก้านใบยาวประมาณ 60 เซนติเมตร มีจุดประสีขาว สีเขียว สีน้ำตาล และชมพู ส่วนขอบก้านใบมีหนามทู่ เส้นใบเป็นสีชมพูสดเมื่อยังเป็นใบอ่อน แผ่นใบมีแต้มสีน้ำตาลแดง เส้นใบเป็นสีเขียวถึงสีน้ำตาล โคนใบเป็นพูยาว กาบใบเป็นรูปเรือ สีม่วงเข้มด้านนอก สีเขียวแกมเหลืองด้านใน

ดอก ออกดอกเป็นช่อเป็นแท่งกลมยาว แทงออกมาจากกาบใบ ดอกย่อยส่วนใหญ่จะเป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศ มีใบประดับขนาดใหญ่คล้ายกาบสีน้ำตาลหุ้มอยู่ด้านหนึ่ง

ผล ลักษณะผลเป็นผลสดมีขนาดเล็ก ผลจะมีเนื้อนุ่มหุ้มอยู่ข้างนอก ส่วนภายในจะมีเปลือกหุ้มเมล็ดที่แข็งมาก

สภาพนิเวศวิทยา: พบขึ้นตามบริเวณลำธารที่พื้นเป็นดินโคลนเลนตามป่าดิบชื้นทั่วไป

ถิ่นกำเนิด: หมู่เกาะโซโลมอน

การกระจายพันธุ์: หมู่เกาะโซโลมอน

การปลูกและการขยายพันธุ์: ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดและวการแยกหัว

สรรพคุณ:

-ตำรายาไทย

*เหง้า ก้าน ใบ รสขมร้อน สรรพคุณ บำรุงโรหิต ช่วยย่อยอาหาร ขับน้ำคาวปลาหลังคลอดบุตร

องค์ประกอบทางเคมี: -

การศึกษาทางเภสัชวิทยา: -

การศึกษาทางพิษวิทยา: -

การใช้ประโยชน์:

-อาการลมวิงเวียน หน้ามืด ซูบซีด ใช้ต้นและใบมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ผสมกับมะตูมอ่อนและกล้วยน้ำว้าห่าม นำมาดองกับเหล้า 15 วัน หรือบดให้เป็นผงละเอียดผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน ใช้รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 เวลา เช้าและเย็น

-อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ ใช้ดอกนำมาปิ้งกับไฟให้เหลืองแล้วดองกับเหล้าดื่ม ช่วยบรรเทาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติของสตรี

-อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ และโรคริดสีดวงทวาร ใช้ช่อดอกสด 15-30 กรัม นำมาย่างไฟอ่อนให้สุกเหลือง แล้วนำมาดองกับเหล้าโรงประมาณ 1-3 อาทิตย์ จิบวันละน้อยประมาณ 50 ซีซี ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ บรรเทาอาการริดสีดวง

-อาการพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ใช้เหง้าหัว รสร้อน ฝนกับน้ำหรือฝนกับสุราแล้วนำไปปิดปากแผลที่แมงป่องหรือตะขาบกัดต่อยจะบรรเทาอาการปวด

-ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ ใช้ทั้งต้นนำมาดองกับเหล้าดื่ม ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย

-ช่วยให้จริญอาหาร บำรุงโลหิต เหมาะสำหรับสตรี ใช้ก้านใบ รสร้อน โดยหั่นเป็นชิ้นบางๆ ดองกับสุราไว้ดื่ม

-ช่วยฟอกโลหิต บำรุงโลหิต ใช้ก้านใบนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ดองกับเหล้า ใช้กินเป็นยาช่วยเจริญอาหาร ช่วยฟอกเลือดบำรุงโลหิต ซึ่งเหมาะสำหรับสตรี โดยให้ดื่มกินก่อนอาหารครั้งละ 2-3 ช้อนโต๊ะ หรือจะใช้ส่วนของเหง้า กาบต้น หรือทั้งต้นนำมาดองกับเหล้าดื่ม ช่วยบำรุงโลหิต

-ช่วยขับน้ำคาวปลา ใช้ทั้งต้น รสร้อน ดองกับสุราดื่มเป็นยาขับน้ำคาวปลา บำรุงโลหิต บำรุงธาตุ อาการอยู่ไฟไม่ได้ หรือโดนเลือดลมกระทำเป็นเหตุให้ผอมแห้งแรงน้อย

-ช่วยบำรุงโลหิตและรักษามดลูกสำหรับสตรีคลอดบุตรใหม่ ใช้ต้นและใบ รสร้อน หั่นเป็นชิ้นบางๆ ผสมมะตูมอ่อนและกล้วยน้ำว้าห่ามดองกับสุรา 15 วัน หรือบดเป็นผงละเอียดผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน รับประทานครั้งละ 1 เม็ด 2 เวลา เช้า-เย็น ช่วยรักษามดลูกหลังคลอดบุตร ให้มดลูกเข้าอู่ บำรุงโลหิต บำรุงธาตุ

-ปลูกเป็นไม้ประดับเพื่อความสวยงาม เนื่องจากต้นสิงหโทรามีใบที่สวยงาม ดูแลง่าย และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ด้านยาได้

-ในด้านความเป็นมงคล มีความเชื่อว่าว่านสิงหโมรามีอานุภาพทางด้านป้องกันภูตผีปีศาจ และยังเชื่อว่าเป็นว่านคุ้มครองป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ ไม่ให้เข้ามาใกล้ โดยจะนิยมนำมาปลูกไว้ตามริมคลองหรือหน้าบ้านที่พักอาศัย เมื่อว่านออกดอกให้หาผ้าขาวบริสุทธิ์มาผูกรอบกระถาง ถ้าจะให้ดีควรปลูกในวันอังคารหรือวันพฤหัสบดีข้างขึ้น และให้รดน้ำที่เสกด้วยคาถา “อิติปิโสฯ” หรือ “นะโมพุทธายะ” 3 จบเสมอ ผู้ที่เป็นเจ้าของจะสมใจปองในสิ่งที่พึงประสงค์ไว้