Select your language TH EN
เภสัชวัตถุ พืชวัตถุ  thai-herbs.thdata.co thdata.co

อ่านบทความอัตโนมัติ



ชื่อไทย: ทับทิม

ชื่อท้องถิ่น: มะเก๊า (เหนือ)/ พิลาขาว (น่าน)/ พิลา (หนองคาย) 

ชื่อสามัญ: Pomegranate

ชื่อวิทยาศาสตร์: Punica granatum L. 

ชื่อวงศ์: LYTHRACEAE

สกุล:  Punica

สปีชีส์: granatum

ชื่อพ้อง: -

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:

ทับทิม thai-herbs.thdata.co | ทับทิม สรรพคุณ สมุนไพร ไทย

ต้นทับทิม ไม้พุ่มขนาดกลาง สูง 2-5 เมตร เปลือกลำต้นสีเทาค่อนข้างเรียบ กิ่งและยอดอ่อนเป็นเหลี่ยมมีหนามแหลม ส่วนของลำต้นที่ผลิออกมาใหม่มีสีแดง ปลายกิ่งอ่อนห้อยลู่ลง แตกกิ่งก้านโปร่งยาว 


ทับทิม thai-herbs.thdata.co | ทับทิม สรรพคุณ สมุนไพร ไทย

ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปขอบขนานแกมรูปหอกกลับ ปลายแหลม ใบยาว 2-9 เซนติเมตร กว้าง 1-2 เซนติเมตร โคนใบสอบ ส่วนที่ค่อนไปทางปลายใบกว้าง ขอบเรียบ ผิวใบหนาและเป็นมัน ใบอ่อนมีสีแดง 


ทับทิม thai-herbs.thdata.co | ทับทิม สรรพคุณ สมุนไพร ไทย

ดอก ดอกออกเป็นช่อหรือเดี่ยว บริเวณปลายยอดหรือง่ามใบ 2-5 ดอก ดอกมีขนาดใหญ่ กลีบดอกสีส้มแดง ร่วงง่าย มี 6 กลีบ ปลายกลีบดอกแยกออกจากกัน รูปดอกคล้ายระฆัง ตรงกลางดอกมีเกสร ดอกตัวผู้จำนวนมาก สีเหลือง เกสรตัวผู้ติดอยู่ที่กลีบเลี้ยงด้านใน ดอกตัวเมียมี 1 อัน ก้านดอกสั้น กลีบเลี้ยงหนาแข็งโคนกลีบติดกันเป็นหลอด ปลายหลอดจักเป็นฟันเลื่อยและปลายหยักโค้งออก สีส้มแกมเหลือง 


ทับทิม thai-herbs.thdata.co | ทับทิม สรรพคุณ สมุนไพร ไทย

ผล ลักษณะผลรูปกลม ขนาด 5-12 เซนติเมตร เปลือกผลหนา ผิวเรียบเกลี้ยง เป็นมัน เมื่อสุกมีสีเหลืองปนน้ำตาลและมีสีแดงฉาบบางๆ เป็นตอนๆ ผลแก่จะแตกอ้าเห็นภายในมีเมล็ดจำนวนมาก และมีเนื้อสีชมพูอ่อน โปร่งแสง มีรสเปรี้ยวอมหวาน ห่อหุ้มเมล็ดไว้ เมล็ดรูปร่างเป็นเหลี่ยมมนๆ อัดกันแน่นเต็มผล เมล็ดมีทั้งชนิดสีแดง ชมพู และสีเหลืองซีด 

สภาพนิเวศวิทยา: พบในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลอย่างน้อย 300 เมตร 

ถิ่นกำเนิด: ตะวันออกของประเทศอิหร่าน ทางตอนใต้ของอัฟกานิสถานและทางตอนเหนือของเทือกเขาหิมาลัย

การกระจายพันธุ์: -

การปลูกและการขยายพันธุ์: ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

สรรพคุณ:

-ตำรายาไทย

*ต้น ราก รสเบื่อเมา สรรพคุณ ขับพยาธิตัวตืด และพยาธิไส้เดือน

*ใบ รสฝาด สรรพคุณ แก้เด็กท้องร่วง บิดมูกเลือด

*เปลือกลูก รสฝาด สรรพคุณ แก้ท้องร่วง บิด ปิดธาตุ ฝนกับน้ำปูนใส ทาแก้พุพอง เน่าเปื่อย

*ทับทิมทั้ง 5 สรรพคุณ แก้ท้องเสีย บิด มูกเลือด

-บัญชียาจากสมุนไพร ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปรากฏการใช้ทับทิมในยารักษาอาการโรคในระบบต่างๆของร่างกาย ได้แก่

1.ยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ปรากฏตำรับ “ยาธาตุบรรจบ” มีส่วนประกอบของทับทิมร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ ใช้บรรเทาอาการอุจจาระธาตุพิการ ท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่นอุจจาระไม่เป็นมูกหรือมีเลือดปน ท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้ เป็นต้น “ยาเหลืองปิดสมุทร” มีส่วนประกอบของทับทิมร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ ใช้บรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูกหรือมีเลือดปน ท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้ เป็นต้น

องค์ประกอบทางเคมี: 

-ราก และกิ่งก้าน พบอัลคาลอยด์ 0.3-0.5% ได้แก่ pelletierine, pseudo- pelletierine, iso pelletierine สารอื่น ๆ ที่พบ ได้แก่ punicotannic acid, gallic acid, เปลือกผล และราก พบ mannitol, 2-propenyl-piperidine, cralaegolic acid, asiatic acid, cadaverine เปลือกผล มีรสฝาดจากสาร tannic acid

การศึกษาทางเภสัชวิทยา:

-ฤทธิ์ต้านอาการท้องร่วง การทดสอบฤทธิ์ต้านอาการท้องร่วงของสารสกัด 50% เอทานอล ที่ได้จากเปลือกผลทับทิม ทำการทดลองในสัตว์ทดลอง และในหลอดทดลอง ในสัตว์ทดลอง ตรวจสอบโดยให้สารสกัดจากเปลือกผลทับทิมขนาดต่ำ (0.5 g ต่อน้ำหนักตัว 1kg) และขนาดสูง (1.0 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg) แก่หนูถีบจักรสายพันธุ์สวิส หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง ชักนำให้หนูเกิดอาการท้องร่วงด้วยน้ำมันละหุ่ง, sennoside B, magnesium sulphate หรือ misoprostol ทำการทดสอบโดยแบ่งหนูออกเป็น 4 กลุ่ม ตามสารชักนำที่ได้รับ บันทึกผลโดยวัดเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกหลังจากชักนำให้ท้องร่วง (onset), จำนวนครั้งที่ถ่าย และลักษณะความแข็งเหลวของเนื้ออุจจาระ รายงานผลเป็นจำนวนครั้ง ใช้เวลาในการสังเกตผล 6 ชั่วโมง ผลการทดสอบพบว่าสารสกัดเปลือกผลทับทิมมีผลป้องกันการถ่ายเหลวในหนูได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p≤0.05) ทั้งในขนาดต่ำ และขนาดสูง เมื่อใช้สารชักนำเป็นน้ำมันละหุ่ง โดย onset ของกลุ่มควบคุม, สารสกัดขนาดต่ำ และสารสกัดขนาดสูง เท่ากับ 29.8±3.4*, 89.2±19.2* และ 47.7±1.9* นาที ตามลำดับ จำนวนครั้งที่ถ่ายอุจจาระ เท่ากับ 8.4±0.2*, 5.2±1.1* และ 6.2±0.8 ครั้ง ตามลำดับ จำนวนครั้งที่ถ่ายอุจจาระเหลว เท่ากับ 7.0±0.5*, 1.6±0.5* และ 1.4±0.6* ครั้ง ตามลำดับ (*p≤0.05) สรุปได้ว่าสารสกัดผลทับทิมทำให้เวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกหลังชักนำให้ท้องร่วงนานขึ้น ลดจำนวนครั้งของการถ่ายอุจจาระ และจำนวนครั้งที่ถ่ายอุจจาระเหลว ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อเหนี่ยวนำให้ท้องร่วงด้วยน้ำมันละหุ่ง   การทดสอบในหลอดทดลอง โดยการตัดลำไส้เล็กส่วนปลาย (ileum) แยกออกมาจากหนูตะเภาเพศผู้ จากนั้นเหนี่ยวนำให้ลำไส้หดตัวด้วยสารเคมี ได้แก่ ACh, BaCl2 หรือใช้กระแสไฟฟ้าความถี่ 10 Hz ผลการทดสอบพบว่าสารสกัดจากเปลือกผลทับทิม มีค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งการหดตัวของลำไส้เล็กส่วนปลายได้ร้อยละ 50 (IC50) เท่ากับ 1.17±0.68, 3.20±2.50 และ 1.68±0.24 (mg/ml) ตามลำดับสิ่งเหนี่ยวนำ สรุปได้ว่าสารสกัดจากผลทับทิมทำให้ลำไส้เล็กหดตัวลดลง มีผลให้จำนวนครั้งของการถ่ายอุจจาระ และอาการปวดมวนท้องลดลง เมื่อมีอาการท้องร่วงได้ (Airarat, et al., 2000)

-ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย การทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรค ของสารสกัดเมทานอล และสารสกัดเอทานอลที่ได้จากใบทับทิม ทำการศึกษาในหลอดทดลอง โดยใช้วิธี agar well diffusion method เพื่อหาบริเวณโซนใสที่ยับยั้งเชื้อ (zone of inhibition) และใช้วิธี micro broth dilution method เพื่อหาค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งเชื้อได้ (MIC) ใช้ยา ciprofloxacin ขนาด 5 µg/ml เป็นสารมาตรฐาน ทำการทดสอบกับเชื้อแบคทีเรีย แกรมลบ 3 ชนิด ได้แก่ Escherichia coli, Klebsiella pneumonia และ Salmonella typhimurium  เชื้อแบคทีเรีย แกรมบวก 2 ชนิด ได้แก่ Staphylococcus aureus และ Bacillus cereus ผลการทดสอบพบว่าสารสกัดเมทานอลมีค่า MIC ในการยับยั้งเชื้อทั้ง 5 ชนิด เท่ากับ 2.5, 1.25, 2.5, 1.25 และ 0.3125 mg/ml ตามลำดับ  สารสกัดเอทานอล มีค่า MIC ในการยับยั้งเชื้อทั้ง 5 ชนิด เท่ากับ 1.25, 1.25, 2.5, 2.5 และ 0.07813 mg/ml ตามลำดับ (MIC ของสารมาตรฐานเท่ากับ 0.1526, 0.3125, 0.15625, 0.07813 และ 1.3125 mg/ml ตามลำดับ)โดยสรุปทั้งสารสกัดเมทานอล และเอทานอลจากใบทับทิม สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียทั้ง 5 ชนิด ที่ใช้ในการทดสอบได้ โดยเชื้อ E. coli, S. typhimurium, S. aureus และ B. cereus  เป็นเชื้อที่เป็นสาเหตุในการก่อโรคอาหารเป็นพิษ และโรคอื่นๆได้ โดยเฉพาะเชื้อ E. coli และ S. typhimurium เป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาระร่วง เชื้อ K. pneumoniae เป็นสาเหตุให้ติดเชื้อที่ปอดได้ และพบว่าสารสกัดเมทานอล และเอทานอลสามารถยับยั้งเชื้อ B. cereus ได้ดีกว่าสารมาตรฐาน ciprofloxacin โดยเชื้อ B.cereus เป็นเชื้อที่สามารถก่อโรคฉวยโอกาสได้ในผู้ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ติดเชื้อจากเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ทำให้เกิดเยื่อบุหัวใจ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ การติดเชื้อในกระแสเลือด นอกจากนี้ยังก่อโรคอาหารเป็นพิษได้ และเป็นสาเหตุของการเกิดตาอักเสบ เป็นต้น (Madduluri, et al., 2013)

-ฤทธิ์ต้านการอักเสบ การทดสอบฤทธิ์ต้านการอักเสบในหลอดทดลองของสารสกัดเฮกเซน, สารสกัดไดคลอโรมีเทน, สารสกัดเอทิลอะซิเตต, สารสกัดเอทานอล และสารสกัดเมทานอล ที่ได้จากใบทับทิม ตรวจสอบโดยดูผลการยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องในขบวนการอักเสบได้แก่ 5-lipoxygenase (5-LOX) ใช้ nordihydroguaiareticacid (NDGA) เป็นสารมาตรฐาน ผลการทดสอบพบว่าสารสกัดเอทานอลออกฤทธิ์ต้านการอักเสบได้สูงที่สุด  รองลงมาคือสารสกัดเมทานอล โดยสารสกัดทั้งสองชนิดออกฤทธิ์ได้ดีกว่าสารมาตรฐาน  ค่า IC50 ของสารสารสกัดเอทานอล, สารสกัดเมทานอล, และสารมาตรฐาน NDGA เท่ากับ  6.20±0.17, 6.83±0.37 และ 7.00±0.22 mg/l ตามลำดับ (Bekir, et al., 2013)

-ฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส การทดสอบฤทธิ์ anti-cholinesterase ในหลอดทดลองของสารสกัดเฮกเซน, สารสกัดไดคลอโรมีเทน, สารสกัดเอทิลอะซิเตต, สารสกัดเอทานอล, และสารสกัดเมทานอลที่ได้จากใบทับทิม ตรวจสอบโดยวิธี Ellman’s method โดยดูผลการยับยั้งเอนไซม์ 2 ชนิด คือ acetylcholinesterase (AChE) และ butyrylcholinesterase (BuChE) (ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำลายสารสื่อประสาท acethylcholine ในสมอง ทีเกี่ยวข้องกับความจำ การยับยั้งเอนไซม์นี้ ซึ่งมี 2 ชนิดหลักคือ AChE และ BChE  โดย BChE จะพบมากในระยะท้ายของโรคอัลไซเมอร์ การยับยั้งเอนไซม์ทั้งสองชนิดนี้ จึงเป็นเป้าหมายในการรักษาโรคความจำเสื่อมอัลไซเมอร์) การทดสอบใช้ galanthamine เป็นสารมาตรฐาน ผลการทดสอบพบว่า สารสกัดเอทานอล ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ทั้ง 2 ชนิด ได้ดีที่สุด โดยออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ AChE อยู่ในระดับดี ค่า IC50 ของสารสกัดเอทานอล และสารมาตรฐาน galanthamine  เท่ากับ 14.83±0.73 และ 0.45±0.03  mg/l ตามลำดับ  ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ BuChE อยู่ในระดับดีมาก ค่า IC50 ของสารสกัดเอทานอล และสารมาตรฐาน galanthamine  เท่ากับ 2.65±0.21 และ 3.74±0.28 mg/l ตามลำดับ (Bekir, et al., 2013)

-ฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง การทดสอบความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง ของสารสกัดเฮกเซน, สารสกัดไดคลอโรมีเทน, สารสกัดเอทิลอะซิเตต, สารสกัดเอทานอล และสารสกัดเมทานอล ที่ได้จากใบทับทิม โดยใช้เซลล์มะเร็งเต้านมที่ได้จากมนุษย์ (MCF-7) ใช้ doxorubicin เป็นสารมาตรฐาน ผลการทดสอบพบว่าสารสกัดเมทานอลออกฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง MCF-7 ได้ดีที่สุด ค่า IC50 ของสารสกัดเมทานอล และสารมาตรฐาน doxorubicin เท่ากับ 31±1.02และ 0.22±0.02 mg/l ตามลำดับ (Bekir, et al., 2013)

-ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ การทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธีทางเคมี ในหลอดทดลอง ของสารสกัดเฮกเซน, สารสกัดไดคลอโรมีเทน, สารสกัดเอทิลอะซิเตต, สารสกัดเอทานอล และสารสกัดเมทานอล ที่ได้จากใบทับทิม ตรวจสอบโดยใช้วิธี DPPH (1,1-diphenyl-2-picrylhydrazyl) assay และ ABTS (2,2-azinobis-3-ethylbenzothiazoline-6-sulphonate)  assay ใช้ quercetin เป็นสารมาตรฐาน ผลการทดสอบพบว่าสารสกัดเมทานอลออกฤทธิ์ได้ดีที่สุด ความเข้มข้นที่สามารถยับยั้งอนุมูลอิสระ DPPH และ ABTS ได้ร้อยละ 50 (IC50) เท่ากับ 5.62 ±0.23 และ 1.31±0.00 mg/l ตามลำดับ สารมาตรฐาน quercetin มีค่า IC50 เท่ากับ 2.86±0.09 และ 0.93±0.03 mg/l ตามลำดับ (Bekir, et al., 2013)

การศึกษาทางพิษวิทยา:-

การใช้ประโยชน์:

-อาการท้องร่วง ใช้ยอดใบสดนำมาต้มน้ำ 2 แก้ว ร่วมกับกะเพราอย่างละ 7 ยอด ใช้ดื่มแก้ท้องร่วงได้ 

-อาการท้องร่วง เปลือกต้นมีแทนนินและกรดกลูโลแทนนิก (glullotannic acid) มีสรรพคุณแก้ท้องร่วง ช่วยถ่ายพยาธิ แต่ไม่ควรกินในปริมาณมาก เพราะจะทำให้เวียนศีรษะ คลื่นไส้และใจสั่น 

-อาการเหงือกบวม เจ็บคอ ปวดฟัน ใช้เปลือกผลสดๆ มาต้มกับน้ำ 1 แก้ว ใส่เกลือเล็กน้อย ใช้อมกลั้วคอตอนเช้าและก่อนนอน ช่วยแก้ปวดฟัน เหงือกบวม และเจ็บคอ 

-อาการท้องเสีย บิดเรื้อรัง ใช้เปลือกผลตากแดดให้แห้ง ประมาณ 1/4 ของผล ฝนกับน้ำฝนหรือน้ำปูนใสให้ข้นๆ รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนแกง หรือต้มกับน้ำปูนใส แล้วดื่มน้ำที่ต้ม

-อาการแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ใช้เปลือกผลตากแดดให้แห้ง บดเป็นผงผสมกับน้ำมันพืชใช้ทาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก หรือใช้ทาแก้น้ำกัดเท้า 

-ช่วยถ่ายพยาธิ ใช้เปลือกสดของราก, ต้น ที่เก็บใหม่ๆ 60 กรัม หรือประมาณ 1/2 กำมือ เติมกานพลูหรือกระวานลงไปเล็กน้อย เพื่อแต่งรส ต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 1/2 ถ้วยแก้ว รับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ (30 ซี.ซี.) หลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง รับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลือ 2 ช้อนโต๊ะตาม  ควรอดอาหารก่อนรับประทานยา เพื่อถ่ายพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลม

-อาการระดูขาว ตกเลือด ใช้เปลือกราก นำมาตากแห้งต้มน้ำดื่มเป็นยาแก้ระดูขาว ตกเลือด 

-อาการปวดท้องจากโรคกระเพาะอาหาร ใช้เมล็ดบดให้ละเอียดกินแก้ปวดท้อง เนื่องจากโรคกระเพาะ 

-น้ำทับทิม (จากเนื้อหุ้มเมล็ด) ใช้ลดความดันโลหิต ใช้ร่วมกับบัวบก ลดภาวะโรคเหงือก 

-น้ำทับทิม (จากเนื้อหุ้มเมล็ด) ช่วยลดอุณหภูมิภายในร่างกาย ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับผู้ที่กำลังฟื้นไข้ แก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน ช่วยบำรุงสายตา หัวใจ ไต และลดความดันโลหิต ดื่มหลังอาหาร ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อได้ 

-ทับทิมเป็นผลไม้มงคลของจีน กิ่งใบทับทิมเป็นใบไม้สิริมงคลที่ใช้ทุกงานที่มีน้ำมนต์ประกอบพิธี โดยจะใช้พรมน้ำมนต์และ มีไว้ติดตัวเพื่อคุ้มครองกันภัย มีเรื่องเล่าว่า เพราะเป็นพันธุ์ไม้ที่ถูกนำมาเผยแพร่ในเมืองจีนพร้อมกับ พระพุทธศาสนา ซึ่งประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า “พระถังซัมจั๋ง” ได้ไปอาราธนาพระไตรปิฎกที่อินเดีย ท่านได้นำพันธุ์ไม้ต่างๆ มาด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือทับทิม ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมาก จึงสื่อความหมายถึงการ ให้มีลูกชายมาก ๆ



ข้อมูลในระบบนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ ประกอบการเรียนการสอน | copyright © thai-herbs.thdata.co

สร้างบทความของคุณ โดยวิธีการง่ายๆ



แชร์ข้อมูล




ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง