Select your language TH EN
เภสัชวัตถุ พืชวัตถุ  thai-herbs.thdata.co thdata.co

อ่านบทความอัตโนมัติ



ชื่อไทย: สนสร้อย (สนทราย)

ชื่อท้องถิ่น: สนหางสิงห์ (เลย)/ สนดง สนหิน เสียวน้อย (อุบลราชธานี)/ สนหอม (จันทบุรี)/ สนขี้ไก่ (กาญจนบุรี)/ ปอโฮ่งรุห์ สนเล็ก สนสร้อย (นครศรีธรรมราช)/ สนนา (สุราษฎร์ธานี)/ ก้านถินแดง สน (พังงา)/ สนเทศ (ปัตตานี)/ กังซง ซือหลิ่ว (จีนกลาง)

ชื่อสามัญ: -

ชื่อวิทยาศาสตร์: Baeckea frutescens L.

ชื่อวงศ์: MYRTACEAE

สกุล: Baeckea

 สปีชีส์: frutescens

ชื่อพ้อง: 

-Baeckea chinensis Gaertn.

-Baeckea cochinchinensis Blume

-Baeckea cumingiana Schauer

-Baeckea ericoides Schltdl.

-Baeckea sinensis Gaertn.

-Baeckea stenophylla F.Muell.

-Baeckea sumatrana Blume

-Drosodendron rosmarinus (Lour.) M.Roem.

-Neuhofia rosmarinifolia Stokes

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:

สนสร้อย thai-herbs.thdata.co | สนสร้อย สรรพคุณ สมุนไพร ไทย

ต้นสนทราย เป็นไม้พุ่มจำพวกสน แตกกิ่งก้านสาขาเป็นจำนวนมาก มีความสูงของต้นประมาณ 5 เมตร ล้ำต้นเป็นสีเทาอมน้ำตาล เนื้อไม้เป็นสีน้ำตาล มีความแข็งแรงทนทาน แต่มักมีขนาดไม่เหมาะสมแก่การใช้งาน กิ่งแตกเป็นเนื้อมีขนสีน้ำตาลแดง ลักษณะของกิ่งมักลู่ลง กิ่งมีสีน้ำตาลอ่อน เรียวยาว เปลือกแตกเป็นขุย


สนสร้อย thai-herbs.thdata.co | สนสร้อย สรรพคุณ สมุนไพร ไทย

ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามเป็นคู่ ๆ ใบมีลักษณะเป็นเส้นพุ่มห้อย อยู่รวมกันเป็นกระจุก ใบมีขนาดกว้างประมาณ 0.4-0.6 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 5-8 มิลลิเมตร หลังใบเป็นร่อง ส่วนท้องใบงอเล็กน้อย โคนเป็นครีบ มีกลิ่นหอม ก้านใบสั้นหรือไม่มีก้านใบ ลักษณะของใบคล้ายกับใบสนเข็ม

ดอก ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวหรือออกเป็นกระจุกสั้น ๆ ที่ง่ามใบ มีดอกย่อยประมาณ 2-3 ดอก มีสมมาตรแนวรัศมี ก้านดอกสั้น ดอกมีขนาดเล็กสีขาว กลีบดอกมี 5 กลีบ แต่ละกลีบยาวไม่เกิน 2 มิลลิเมตร ดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยงแยกออกเป็น 2 แฉก หุ้มติดโคนกลีบดอก ดอกมีเกสรเพศผู้ประมาณ 8-10 อัน มีรยางค์ ปลายเป็นต่อม ก้านเกสรเพศเมียยาวได้ประมาณ 1-1.5 มิลลิเมตร ปลายเกสรกลม รังไข่มี 3 อัน จานฐานดอกเป็นรูปถ้วย ยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร ส่วนกลีบเลี้ยงเป็นรูปถ้วย ยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร ปลายกลีบมน

ผล ลักษณะผลเป็นรูปถ้วยขนาดเล็ก ประมาณ 1.5 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยงและเกสรเพศเมียติดทน สีน้ำตาล เมื่อแห้งแล้วจะแตกกลางพู ภายในผลพบเมล็ดรูปเป็นเหลี่ยม เมล็ดมีขนาดเล็กและมีจำนวนมาก ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปไตขนาดประมาณ 0.5 มิลลิเมตร

สภาพนิเวศวิทยา: พบตามป่าไม้ผลัดใบ ป่าหญ้า ป่าชายหาด ป่าเทุ่งหญ้า ตามยอดเขาที่เป็นหินทราย หรือในดินปนทรายตามแนวชายฝั่งทั่วไป ที่ระดับความสูงจนถึงประมาณ 1,800 เมตร

ถิ่นกำเนิด: จีนตะวันออกเฉียงใต้ไปจนถึงออสเตรเลีย

การกระจายพันธุ์: เอเชียและโอเชียเนีย ประเทศอินเดีย พม่า เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ จีน เกาะบอร์เนียว สุมาตรา และนิวกินี 

การปลูกและการขยายพันธุ์: ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

สรรพคุณ:

-ตำรายาไทย

*ใบ รสเย็น สรรพคุณ แก้ไข้ตัวร้อน ไข้หวัด ไอ แก้พิษร้อนในกระหายน้ำ

องค์ประกอบทางเคมี: 

-ใบ พบน้ำมันระเหยหลายชนิด เช่น น้ำมันยูคาลิปตัส, น้ำมันสน, Cineole และในน้ำมันระเหยยังพบสารอีกหลายชนิด เช่น Ya-Pinene, Limonene, p-cymene, Linalool, Fenchol, a-B-pinene, L-Borneol a-Terpineol, Baeckeol เป็นต้น

การศึกษาทางเภสัชวิทยา:-

การศึกษาทางพิษวิทยา:-

การใช้ประโยชน์:

-อาการปวดกระเพาะ ใช้รากสนทรายสด 30 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน 

-โรคผิวหนัง ใช้ใบสดตำพอกแก้โรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ผดผื่นคัน แก้ออกหัดตำรับยา

-อาการแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ใใช้ใบสนทรายแห้ง นำมาบดให้เป็นผงผสมกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันจากใบชา ใช้ทาบริเวณที่เป็นแผล 

-อาการปวด บวมช้ำ ฟกช้ำดำเขียวใช้ใบสนทรายสด 30 กรัม นำมาตำพอให้แหลก แล้วนำมาชงกับน้ำร้อน กรองเอาแต่น้ำผสมกับน้ำตาลเล็กน้อยใช้รับประทาน

-ช่วยขับลมชื้น แก้ปวดข้อ รใช้รากสด 30 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน 

*น้ำมันหอมระเหยจากใบที่ได้จากการกลั่นจะมีสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นคล้ายกับลาเวนเดอร์ อาจนำมาใช้ทำน้ำหอมและสบู่ได้ใ

-ในมาเลเซียและสุมาตราจะใช้สมุนไพรชนิดนี้ในการอยู่ไฟในการคลอดบุตรของสตรี 

-ในเวียดนามใช้ต้นทำเป็นไม้กวาด ใช้เป็นไม้ประดับ

-นิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป โดยเฉพาะการนำมาทำเป็นบอนไซสนทราย



ข้อมูลในระบบนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ ประกอบการเรียนการสอน | copyright © thai-herbs.thdata.co

สร้างบทความของคุณ โดยวิธีการง่ายๆ



แชร์ข้อมูล




ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง