Select your language TH EN
เภสัชวัตถุ พืชวัตถุ  thai-herbs.thdata.co thdata.co

อ่านบทความอัตโนมัติ



ชื่อไทย: กรรณิกา


thai-herbs.thdata.co | สรรพคุณ สมุนไพร ไทย

ชื่อท้องถิ่น: กณิการ์ กรรณิการ์ กันลิกา กรรณิกา (ภาคกลาง)/ สะบันงา (น่าน)/ ปาริชาติ (ทั่วไป)

ชื่อสามัญ: Night blooming jasmine, Night jasmine, Coral jasmine

ชื่อวิทยาศาสตร์: Nyctanthes arbor-tristis Linn.

ชื่อวงศ์: OLEACEAE

สกุล: Nyctanthes

สปีชีส์: arbor-tristis

ชื่อพ้อง:

-Bruschia macrocarpa Bertol.

-Nyctanthes dentata Blume

-Nyctanthes tristis Salisb.

-Parilium arbor-tristis (L.) Gaertn.

-Scabrita scabra L.

-Scabrita triflora

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:

      ต้นกรรณิการ์ เป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ยืนต้นขนาดเล็กไม่ผลัดใบ มีเรือนยอดเป็นรูปทรงพีระมิดแคบ มีความสูงของต้นประมาณ 3-5 เมตร เปลือกของลำต้นมีลักษณะขรุขระและเป็นสีน้ำตาล กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยมสี่เหลี่ยม และมีขนแข็งสากมือ

      ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ มีความกว้างประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบหรือบางใบจะหยักแบบห่าง ๆ กัน และตามขอบใบอาจมีขนแข็ง ๆ หลังใบมีขนแข็งสากมือ ส่วนท้องใบมีขนแข็งสั้น ๆ มีเส้นแขนงของใบข้างละ 3-4 เส้น ปลายเส้นจรดกันก่อนถึงขอบใบ และมีก้านใบสั้น ยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร

thai-herbs.thdata.co | สรรพคุณ สมุนไพร ไทย

      ดอก ออกดอกเป็นช่อ ออกตามซอกใบหรือง่ามใบ ก้านช่อดอกยาวประมาณ 1.2-2 เซนติเมตร มีใบประดับรูปคล้ายใบเล็ก ๆ อยู่ 1 คู่ที่ก้านช่อดอก ในแต่ละช่อดอกจะมีดอกอยู่ประมาณ 3-7 ดอก ดอกเป็นดอกย่อยสีขาวและมีกลิ่นหอม ดอกจะบานในช่วงเย็นและจะร่วงในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น ไม่มีก้านดอก ในแต่ละดอกจะมีใบประดับอยู่ 1 ใบ ดอกตูมมีกลีบดอกเรียงซ้อนกันและบิดเป็นเกลียว กลีบมีประมาณ 5-8 กลีบ ปลายกลีบเว้า ส่วนโคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดสีแสดสั้น ๆ ยาวประมาณ 1.1-1.3 เซนติเมตรด้านในมีขนยาว ๆ สีขาวที่โคนหลอด ส่วนด้านนอกเกลี้ยง ที่ปลายหลอดแยกเป็นกลีบสีเขียว หรือที่เรียกว่ากลีบดอก ประมาณ 5-8 กลีบ ในแต่ละกลีบจะมีความยาวประมาณ 0.1-1.1 เซนติเมตร โคนกลีบแคบ ปลายกลีบกว้างและเว้าลึก ดอกมีเกสรเพศผู้จำนวน 2 ก้านติดอยู่ภายในหลอด กลีบดอกบริเวณปากหันด้านหน้าเข้าหากัน มีก้านชูอับเรณูเชื่อมติดเป็นเนื้อเดียวกันกับหลอดดอก ส่วนรังไข่จะอยู่เหนือวงกลีบ มีลักษณะกลม มีอยู่ 2 ช่อง และมีออวุลช่องละ 1 เม็ด ส่วนเกสรเพศเมียจะมีแค่ 1 อัน ยอดเกสรเพศเมียมีลักษณะเป็นตุ่มมีขน และยังมีกลีบเลี้ยงดอกสีเขียวอ่อนอยู่ 4 กลีบ ติดกันเป็นหลอดรูปกรวยปลายติดหรือหยักตื้น ๆ 5 หยัก ด้านในเกลี้ยง ส่วนด้านนอกมีขน

      ผล ลักษณะเป็นรูปไข่กลับหรือมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมค่อนข้างแบน ปลายผลเป็นมนและมีติ่งแหลม ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร ผิวผลเรียบ ผลอ่อนเป็นสีเขียว ผลเมื่อแก่จะแตกอ้าออกเป็น 2 ซีก ข้างในผลมีเมล็ดซีกละหนึ่งเมล็ด เมล็ดมีลักษณะกลมแบนและเป็นสีน้ำตาล

สภาพนิเวศวิทยา: -

ถิ่นกำเนิด: เอเชียใต้จากตอนเหนือของปากีสถาน และ เนปาลไปทางใต้ถึงตอนเหนือของอินเดีย และ ตะวันออกเฉียงใต้ของไทย

การกระจายพันธุ์: อินเดีย สุมาตรา ชวา ไทย

การปลูกและการขยายพันธุ์: ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง และการปักชำ

สรรพคุณ:

-ตำรายาไทย

      *ต้น รสขมเย็นหวานฝาด สรรพคุณ แก้ปวดศีรษะ แก้ปวดข้อ แก้ไข้

      *เปลือก รสขมเย็น ใช้เปลือกต้นชั้นใน ต้มดื่มแก้ปวดศีรษะ ใบ รสขม บำรุงน้ำดี ขับน้ำดี แก้ไข้เพื่อดี แก้ไข้ แก้ปวดข้อ ใช้ใบสด 1 กำมือ ตำคั้นเอาแต่น้ำ 1 ถ้วยแก้ว แบ่งรับประทาน 4 ครั้ง เป็นยาขมเจริญอาหาร ถ้ารับประทานมากจะเป็นยาระบาย

      *ดอก รสขมหวาน สรรพคุณ บำรุงน้ำดี เจริญอาหาร แก้ตานขโมย แก้ปวดข้อ แก้ไข้ แก้ไข้ไม่รู้สติ แก้ไข้ผอมเหลือง แก้ตาแดง แก้ลมวิงเวียน แก้พิษทั้งปวง แก้โลหิตตีขึ้น  ใช้ทำน้ำหอม ก้านดอกสีส้ม นำมาคั้นน้ำได้สีเหลืองเข้ม ใช้ย้อมผ้าได้

      *ราก รสขมหวานฝาด สรรพคุณ แก้ท้องผูก แก้ลมวิงเวียน แก้ไอ บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง บำรุงเส้นผมให้ดกดำ แก้ผมหงอก เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงผิวหนังให้สดชื่น แก้ลมและดี แก้ไอ

      *ต้นและราก รสหวานและฝาด สรรพคุณ ต้มหรือฝนรับประทานแก้ไอ สำหรับสตรีหลังคลอดบุตรใหม่ๆ

องค์ประกอบทางเคมี: -

การศึกษาทางเภสัชวิทยา:-

การศึกษาทางพิษวิทยา:-

การใช้ประโยชน์:

-ดอกมีสาร Carotenoid nyctanthin ที่ให้สีเหลืองอมแสด ใช้ทำเป็นสีสำหรับย้อมผ้า ด้วยการใช้โคนกลีบดอกส่วนหลอดสีส้มแดงนำมาโขลกแบบหยาบ ๆ เติมน้ำ แล้วคั้นส่วนน้ำกรองจะได้น้ำที่มีสีเหลืองใส ใช้เป็นสีย้อมผ้าได้ และถ้าเติมน้ำมะนาวหรือสารส้มลงไปเล็กน้อยในขณะย้อม ก็จะทำให้สีคงทนยิ่งขึ้น และนอกจากจะใช้ย้อมสีผ้า สีจร สีผ้าไหมแล้ว ยังใช้ทำสีขนมได้อีกด้วย

-ดอก ใช้สกัดทำเป็นน้ำมันหอมระเหย นำไปใช้สำหรับทำเป็นน้ำหอม

-นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ปลูกเป็นฉากหลัง บังสายตาหรือใช้ปลูกเป็นกลุ่ม ๆ และควรห่างจากลานนั่งเล่นพอสมควร เพราะดอกจะมีกลิ่นหอมแรงในช่วงเย็น

-ในประเทศอินเดียจะนับถือต้นกรรณิการ์ว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่ง (แต่ในประเทศอินเดีย ต้นกรรณิการ์จะเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีความสูงได้ถึง 30 เมตร) จึงอาจถือได้ว่าต้นกรรณิการ์ก็จัดเป็นไม้มงคล




ข้อมูลในระบบนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ ประกอบการเรียนการสอน | copyright © thai-herbs.thdata.co

สร้างบทความของคุณ โดยวิธีการง่ายๆ



แชร์ข้อมูล




ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง