Select your language TH EN
อื่นๆ ความรู้ทั่วไป  thai-herbs.thdata.co thdata.co

อ่านบทความอัตโนมัติ



วิตามินเค (Vitamin K)


วิตามินเค (Vitamin K) หรือ เมนาไดโอน (Menadione) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน โดยวิตามินเค มี 3 ชนิดคือ วิตามินเค 1 (ฟิลโลควิโนน) พบได้ในผักใบเขียว, วิตามินเค 2 (เมนาควิโนน) สร้างขึ้นโดยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ และวิตามินเค 3 (ไฮโดรฟิลโลควิโนน) ซึ่งเป็นวิตามินสังเคราะห์


แหล่งอาหาร

 

วิตามินเค-VitaminK thai-herbs.thdata.co | วิตามินเค-VitaminK สรรพคุณ สมุนไพร ไทย


แหล่งที่พบวิตามินเคตามธรรมชาติ ได้แก่ ไข่แดง ผักใบเขียว นม เนย อัลฟาฟา สาหร่ายเคลป์ น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันตับปลา เป็นต้น


โทษของวิตามินเค 

การขาดวิตามินเค

ภาวะขาดวิตามินเค (Hypovitaminosis K) คือ มีเลือดออกในอวัยวะต่างๆ เช่น ช่องกะโหลกศีรษะ ลำไส้ หรือ ผิวหนัง โดยจะพบมากในช่วงอายุ 1 สัปดาห์แรกของทารกแรกเกิด ทั้งนี้เป็นเพราะทารกมีไขมันสะสมน้อย ตับของทารกยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ลำไส้ยังปราศจากเชื้อแบคทีเรียที่สังเคราะห์วิตามิน ประกอบกับวิตามินเคที่ผ่านมาทางรกและน้ำนมจากมารดานั้นมีปริมาณน้อย


สำหรับภาวะขาดวิตามินเคในผู้ใหญ่นั้น มักเกิดร่วมกับสาเหตุบางอย่าง เช่น โรคเรื้อรังของระบบทางเดินอาหารบางชนิด โรคทางเดินน้ำดีอุดตัน หลังจากการผ่าตัดลำไส้เล็ก หรือได้รับยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ครอบคลุมเชื้อกว้าง


การวินิจฉัยทำได้โดยการตรวจ เวลาโปรธรอมบิน (prothrombin time ; PT) ซึ่งผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินเคจะใช้เวลานานกว่าปกติ หรือตรวจปริมาณวิตามินเคโดยตรงด้วยวิธี HPLC


การรักษาทำได้โดยให้วิตามินเคในรูปยาฉีด 10 มิลลิกรัมครั้งเดียว ในผู้ป่วยที่โรคเรื้อรังอื่นอาจเสริมด้วยวิตามินเคในรูปยากิน 1-2 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ ในรูปยาฉีด 1-2 มิลลิกรัมต่อสัปดาห์


การได้รับวิตามินเคเกินขนาด

แม้ว่าวิตามินเคจะมีความแตกต่างจากวิตามินที่ละลายในไขมันตัวอื่น ๆ คือไม่มีการสะสมในร่างกาย แต่ก็ไม่แนะนำให้รับประทานวิตามินเคแบบสังเคราะห์ในปริมาณที่มากกว่า 500 ไมโครกรัมต่อวัน โดยศัตรูของวิตามินเค ได้แก่ ยาแอสไพริน อาหารแช่แข็ง มลพิษในอากาศ น้ำมันแร่ธรรมชาติ การเอกซเรย์ และการฉายรังสี


ประโยชน์ของวิตามินเค 

  • ช่วยป้องกันเลือดออกภายในและเลือดออกไม่หยุด 

  • ช่วยบรรเทาอาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ 

  • ช่วยในกระบวนการสร้างลิ่มเลือด 

  • ช่วยป้องกันกระดูกเปราะบาง


คำแนะนำในการรับประทานวิตามินเค

  • ขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวันคือ 65 – 80 ไมโครกรัมต่อวัน 

  • วิตามินเคในรูปแบบของอาหารเสริมมีจำหน่ายทั่วไปในรูปแบบเม็ด โดยมีขนาดประมาณ 100 ไมโครกรัม ซึ่งจะผสมอยู่ในวิตามินรวมทั่ว ๆ ไป 

  • ผู้ที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดี เป็นโรคตับ โรคระบบทางเดินอาหาร มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินเค 

  • การรับประทานวิตามินอีปริมาณสูงมาก ๆ จะส่งผลต่อการดูดซึมของวิตามินเคได้ 

  • อาการท้องร่วงอย่างหนักอาจเป็นอาการแสดงออกของภาวะขาดวิตามินเคได้ แต่ก่อนที่จะรักษาตัวเองด้วยการรับประทานอาหารเสริมควรปรึกษาแพทย์ก่อน 

  • การรับประทานผักใบเขียวเป็นประจำ เป็นวิธีป้องกันการขาดวิตามินเคได้ดีที่สุด 

  • หากคุณมีเลือดกำเดาไหลบ่อยครั้ง ควรลองรับประทานอาหารที่มีวิตามินเคสูงให้มากขึ้น หรือรับประทานอัลฟัลฟาแบบเม็ดก็อาจจะช่วยได้ 

  • หากคุณกำลังรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด พึงระลึกไว้เสมอว่า วิตามินเคอาจไปต้านฤทธิ์ของยาได้ แม้ว่าจะเป็นวิตามินเคจากอาหารธรรมชาติก็ตาม 

  • ยาลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดอาจทำให้เกิดภาวะขาดวิตามินเคได้ และหากคุณรับประทานยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์กว้างเป็นเวลายาวนานและต่อเนื่อง ร่างกายอาจมีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินเคได้ ควรรับประทานอาหารที่ให้วิตามินเคเพิ่มมากขึ้น 


อ้างอิง:  เว็บไซต์เมดไทย (Medthai) เมดไทย



ข้อมูลในระบบนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ ประกอบการเรียนการสอน | copyright © thai-herbs.thdata.co

สร้างบทความของคุณ โดยวิธีการง่ายๆ



แชร์ข้อมูล




ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง