Select your language TH EN
อื่นๆ ความรู้ทั่วไป  thai-herbs.thdata.co thdata.co

อ่านบทความอัตโนมัติ



ภูมิแพ้ เสี่ยง โรคริดสีดวงจมูก

ในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ร่างกายอาจอ่อนแอป่วยเป็นหวัด มีอาการจาม คัดแน่นจมูก ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีความผิดปกติใดๆ แต่หากมีอาการหวัดเรื้อรังเป็นๆหายๆ บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีอาการของไซนัสอักเสบร่วมด้วยอย่านิ่งนอนใจเพราะอาจจะเผชิญกับ โรคริดสีดวงจมูก


โรคริดสีดวง คืออะไร

นพ.ปวีณ เพชรรักษ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านหู คอ จมูก โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) ระบุว่า ริดสีดวงจมูก (Nasal Polyps) เกิดจากการที่เยื่อบุจมูกอักเสบ บวมขึ้นเรื่อยๆ มีน้ำคั่ง กลายเป็นก้อนในจมูก เหตุผลที่เรียกริดสีดวงจมูกเนื่องจากมีลักษณะเป็นก้อนคล้ายริดสีดวงทวารที่ยื่นออกมาในจมูก อาจมีเพียงก้อนเดียวหรือหลายก้อน เป็นผลมาจากการอักเสบเรื้อรังจากโรคหอบหืด ภูมิแพ้ หรือความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน อาจไม่ทำให้เกิดอาการ แต่หากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ จะทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก มีปัญหาในการดมกลิ่น หรือเกิดการติดเชื้อได้ง่าย


ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคริดสีดวงจมูก

โรคภูมิแพ้ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่อาจทำให้เกิดโรคริดสีดวงจมูก ซึ่งมีการอักเสบของเยื่อบุจมูกเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน เมื่อมีการอักเสบนานๆ เยื่อบุจมูกจะมีการบวมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในคนที่ไม่รักษาหรือรักษาไม่ถูกต้อง ปล่อยให้มีการอักเสบซ้ำๆ  เยื่อบุจมูกก็จะบวมออกมากลายเป็นริดสีดวงจมูก ทั้งนี้การอักเสบเรื้อรังจะมี 2 แบบด้วยกัน คือ เยื่อบุอักเสบจากภูมิแพ้ และเยื้อบุอักเสบชนิดไม่แพ้ ทั้ง 2 อย่างทำให้เกิดริดสีดวงจมูกได้ทั้งนั้น หรือในผู้ป่วยที่เป็น ไซนัสอักเสบเรื้อรังนานๆ เยื่อบุของไซนัสก็จะบวมออกมากลายเป็นริดสีดวงได้ แต่เราจะไม่เรียกริดสีดวงไซนัส


อาการของคนที่เป็นริดสีดวงจมูก

ถ้าขนาดไม่โตมากผู้ป่วยอาจจะไม่มีอาการอะไร แต่ถ้าเยื่อบุจมูกบวมมากๆ อากาศผ่านจมูกไม่ได้ ผู้ป่วยจะมีอาการคัดแน่นจมูก นอกจากนี้จมูกยังมีหน้าที่รับกลิ่น เมื่อไหร่ก็ตามอากาศไม่สามารถเข้าไปในจมูกถึงเซลล์ประสาทรับกลิ่นได้ก็จะทาให้ผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องการรับกลิ่นเสียไป หรือไม่ได้กลิ่น อย่างที่บอกริดสีดวงจมูกจะเกิดร่วมกับโรคภูมิแพ้และการอักเสบเรื้อรัง นอกจากอาการคัดจมูกแล้ว ผู้ป่วยอาจจะมีอาการคัน จาม น้ำมูกไหล ร่วมด้วย หรือถ้าริดสีดวงจมูกไปอุดรูเปิดของไซนัสที่เปิดเข้ามาในโพรงจมูก ผู้ป่วยอาจจะมีไซนัสอักเสบร่วมด้วย

จากอาการที่กล่าวมานั้นหากพบว่าตนเองมีอาการร่วมเป็นเวลาตั้งแต่ 10 วันขึ้นไป หรือมีอาการที่รุนแรงมากขึ้น ได้แก่ มีปัญหาด้านการมองเห็นอย่างรุนแรงขยับดวงตาไม่ค่อยได้ หรือมองภาพได้ไม่ชัด รวมไปถึงอาการด้านอื่นๆ เช่น อาการปวดศีรษะรุนแรงกว่าปกติ หากใครพบว่าตนเองมีอาการเหล่านี้ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยหาก้อนเนื้อในโพรงจมูก ดังนี้

  • การใช้กล้องส่อง

  • การตรวจด้วยเครื่อง CT Scan

  • การทดสอบอาการภูมิแพ้ทางผิวหนัง

  • การตรวจเลือดคัดกรองภูมิต้านทาน


วิธีการรักษาโรคริดสีดวงจมูก

จะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์  ในส่วนของผู้ป่วยเองควรหมั่นสังเกตตัวเอง อันดับแรกต้องรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ริดสีดวงจมูกโตมากขึ้น ผู้ป่วยจะได้หลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ส่วนการรักษาริดสีดวงจมูกทำได้ 2 วิธีคือ เริ่มต้นจากการรักษาโดยใช้ยา หากอาการไม่ดีขึ้นแพทย์จะรักษาด้วยวิธีผ่าตัด โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • การให้ยา ยาหลักในการรักษาที่สำคัญ คือ ยา สเตียรอยด์ มีทั้งชนิดกินและชนิดฉีดพ่นเข้าไปในจมูก ทาให้ริดสีดวงจมูกยุบและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ แต่ยาสเตียรอยด์ชนิดรับประทานใช้นานไม่ได้ จะ ใช้ได้ช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้นยาหลักในการ รักษาระยะยาวคือยาสเตียรอยด์ชนิดพ่น ซึ่งปลอดภัยกว่า และสามารถพ่นได้นานหลายเดือน หรือหลายปี

  • การผ่าตัด จะใช้ในกรณีที่ให้ยาเต็มที่แล้วไม่ดีขึ้น ยังมีอาการคัดแน่นจมูก ไม่ได้กลิ่นหรือให้ยา เต็มที่แล้วดีขึ้น แต่ลดยาไม่ได้ พอลดยาลงผู้ป่วยกลับมามีอาการเหมือนเดิม ในกรณีนี้แพทย์จะพิจารณา การผ่าตัดให้กับผู้ป่วย


การดูแลและป้องกันริดสีดวงจมูก

ในการป้องกันริดสีดวงจมูก ทำได้โดยการลดโอกาสเสี่ยงที่จะนำไปสู่การเกิดริดสีดวงจมูกหรือลดการเกิดซ้ำหลังการรักษา โดยมีแนวทางดังนี้

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดในการรักษาโรคภูมิแพ้ และโรคหอบหืด

  • ให้ความสำคัญกับการล้างจมูกโดยใช้น้ำเกลือ เพื่อชะล้างสารก่อภูมิแพ้ และลดการระคายเคืองของจมูก

  • หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือการอักเสบของโพรงจมูก เช่น สารก่อภูมิแพ้ ควันบุหรี่ หรือฝุ่นละออง

  • ดูแลเรื่องสุขอนามัย เช่น ล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย


จมูกเป็นอวัยวะสำคัญที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย การหายใจเข้าอาจนำเชื้อโรคจากในอากาศเข้าไปด้วย  ดังนั้นหลังการรักษาผู้ป่วยควรปฏิบัติตนตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด เมื่อรักษาหายแล้วควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นภูมิแพ้ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ จนโรคริดสีดวงจมูกกลับมาเกิดซ้ำได้อีก


แหล่งอ้างอิง: นพ.ปวีณ เพชรรักษ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านหู คอ จมูก โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)  (www.sanook.com)



ข้อมูลในระบบนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ ประกอบการเรียนการสอน | copyright © thai-herbs.thdata.co

สร้างบทความของคุณ โดยวิธีการง่ายๆ



แชร์ข้อมูล




ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง