Select your language TH EN

อื่นๆ ความรู้ทั่วไป thai-herbs.thdata.co thdata.co

อ่านบทความอัตโนมัติ

รู้จัก “เสียง” สีขาว สีชมพู และสีน้ำตาล : ตัวช่วยแก้ปัญหาการนอนไม่หลับ

อาการ “นอนไม่หลับ” เป็นปัญหาคลาสสิกที่ใครหลายคนยังคงต้องประสบพบเจอในชีวิตประจำวัน ทั้งการนอนแบบหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทั้งคืน หรืออาการตาแข็งค้างจนหลับไม่ลงเสียที แม้จะล่วงเลยเวลาที่ควรนอนมานานแล้ว - ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการนอนไม่หลับแบบไหน ก็ล้วนสร้างความรำคาญใจ และส่งผลเสียต่อสุขภาพให้กับเจ้าตัว โดยอาจกระทบต่อหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตได้ทั้งนั้น

หลายคนจึงพยายามค้นหาวิธีการต่างๆ นานา เพื่อที่จะให้ตัวเองสามารถนอนหลับลงได้อย่างสนิทจริงๆ เสียที ซึ่งหนึ่งใน ‘ตัวช่วย’ ที่บางคนอาจยังไม่เคยทดลอง ก็คือการใช้ ‘เสียง’ นี่เอง และ ‘เสียง’ ที่ว่านี้ ก็ยังเป็นเสียงที่มี ‘สี’ เสียด้วย

เสียงสีขาว

“เสียงสีขาว”หรือ White Noise คือชื่อเรียกของเสียงที่ถูกผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ในการแก้ปัญหานอนไม่หลับ ซึ่งมักใช้กับทารกแรกเกิดที่ชอบตื่นมากินนมกลางดึกและไม่ยอมนอนต่อ รวมถึงผู้ใหญ่อย่างเราๆ ท่านๆ ที่มีปัญหาการนอนไม่หลับที่กระทบกับสุขภาพ

โดยเสียงสีขาวจะเกิดจากเสียงที่มีคลื่นความถี่สูง-กลาง-ต่ำมาควบรวมกัน และมีจังหวะที่ราบเรียบสม่ำเสมอ จนสามารถช่วยสร้างความรู้สึกสงบนิ่งให้แก่ผู้ฟังได้ ซึ่งส่วนมากจะเป็น “เสียงแวดล้อม” ที่เกิดจากสภาวะทางธรรมชาติที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง อาทิ เสียงน้ำไหลในลำธาร หรือลักษณะเสียงวนซ้ำที่เกิดจากอุปกรณ์บางอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น เสียงแอร์หรือพัดลม เป็นต้น - ซึ่งสำหรับทารก เสียงสีขาวก็อาจหมายถึงเสียงที่มีจังหวะสม่ำเสมอเหมือนกับ “เสียงหัวใจเต้นของแม่” ที่พวกเขาเคยได้ยินตอนอยู่ในครรภ์ก็ได้

เสียงที่สม่ำเสมอนี้ จะช่วยกลบเสียงดังรอบข้างที่อาจรบกวนการนอนได้ จากเสียงคนพูดคุย, เสียงหมาเห่าหมาหอน ไปจนถึงเสียงแว้นมอเตอร์ไซค์ในยามค่ำคืน และทำให้สมองของเราหันมาสนใจเสียงอื่นๆ น้อยลง มีสมาธิจดจ่อกับเสียงสีขาวที่ดำเนินไป และหลับลงได้อย่างสนิทใจในที่สุด

ทั้งนี้ก็เพราะเสียงที่มีความหนาแน่นสม่ำเสมอจะช่วยกลบเสียงดังรอบข้างที่อาจรบกวนการนอนได้ จากเสียงคนพูดคุย, เสียงหมาเห่าหมาหอน ไปจนถึงเสียงแว้นมอเตอร์ไซค์ในยามค่ำคืน และทำให้สมองของเราหันมาสนใจเสียงอื่นๆ น้อยลง มีสมาธิจดจ่อกับเสียงสีขาวที่ดำเนินไป และหลับลงได้อย่างสนิทใจในที่สุด

จากผลลัพธ์ที่ผ่านมา พบว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้เสียงสีขาวในช่วงเวลาก่อนนอน และสามารถกลับมานอนหลับได้ง่ายขึ้น หลังจากการได้ฟังเสียงในลักษณะนี้เพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น เสียงสีขาวจึงกลายมาเป็นตัวช่วยชั้นดีที่หลายคนเลือกใช้เป็นประจำ

เสียงสีชมพู

“เสียงสีชมพู” (Pink Noise) และ “เสียงสีน้ำตาล” (Brown Noise) รวมอยู่ด้วย ซึ่งก็สามารถใช้ในการแก้ปัญหานอนไม่หลับได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับคลื่นความถี่เสียงของแต่ละคน

โดยเราอาจเรียกเสียงสีชมพูได้ว่าเป็นเสียงขาวชนิดหนึ่ง แต่จะ “ดังขึ้น” เมื่อเสียงเคลื่อนไปยังความถี่ต่ำ และ “เบาลง” เมื่อเคลื่อนไปยังความถี่สูง หรือพูดง่ายๆ ก็คือเป็นเสียงที่จะให้ความรู้สึก “ลึก”, “แบน” แต่ “นุ่มนวล” กว่าเสียงสีขาวทั่วไปนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น เสียงฝนตก, เสียงน้ำตก, เสียงลมพัด, เสียงคลื่นกระทบฝั่ง เป็นต้น (ข้อมูลบางแหล่งกล่าวว่า เสียงเต้นของหัวใจในข้างต้น ก็อาจถือได้ว่าเป็นเสียงสีชมพูด้วย) – ซึ่งกล่าวกันว่า หากผู้ฟังที่ใช้เสียงสีนี้บำบัดอาการนอนไม่หลับ ยิ่งมีอายุมากเท่าไร เสียงสีชมพูก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น

เสียงสีน้ำตาล

ที่บางครั้งก็ถูกเรียกว่า “เสียงสีแดง” (Red Noise) เป็นเสียงที่ถูกนิยามว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับเสียงสีชมพู เพียงแต่จะมีความ “ลึก” และ “หยาบ” กว่าเล็กน้อยในคลื่นความถี่ที่ต่ำลงไป รวมถึงยังปราศจากคลื่นความถี่สูงแบบสองเสียงสีแรก ยกตัวอย่างเช่น เสียงพายุฝนฟ้าคะนอง เป็นต้น (อย่างไรก็ดี ข้อมูลบางแหล่งอ้างว่า แม้เสียงสีน้ำตาลจะส่งผลดีต่อมนุษย์ในแง่ของการบำบัดและพัฒนาประสาทการรับรู้ผ่านเสียง แต่มันยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจะสามารถช่วยให้ผู้ฟังนอนหลับได้ดีขึ้น)

แต่ถึงอย่างนั้น เสียงที่ว่ากันว่าจะช่วยป้องกันเสียงรบกวน-ที่ทำให้เรานอนไม่หลับ-ได้ดีที่สุดนั้น ยังคงเป็นเสียงสีขาวนั่นเอง (อนึ่ง ยังมีการนิยาม “เสียงสีดำ” หรือ Black Noise เอาไว้ด้วย ซึ่งมันจะหมายถึง ความเงียบที่มีเสียงรบกวนเข้าแทรกเพียงเล็กน้อย)

ในปัจจุบัน เราสามารถหาเสียงเหล่านี้ฟังได้ผ่านสมาร์ทโฟน ทั้งทางเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน หรือแม้แต้รายการพอดแคสต์ที่ว่าด้วย White Noise หรือ “เสียงที่ทำให้หลับได้ง่ายขึ้น” โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม การใช้เสียงสีต่างๆ มาเป็นตัวช่วยแก้อาการนอนไม่หลับนั้น อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป เพราะหากเราใช้เสียงสีเหล่านี้เป็นประจำ และใช้ด้วยระดับเดซิเบลที่ดังจนเกินไป ความดันที่เกิดขึ้นจากเสียงดังกล่าวก็อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อประสิทธิภาพทางการได้ยินของเราได้ โดยเฉพาะกับทารกที่ยังมีประสาทการรับรู้อันอ่อนแอและอ่อนไหว

หรือมันอาจให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามไปเลย เช่น การนอนไม่หลับยิ่งกว่าเดิม เพราะคนบางคนก็อาจไม่ถูกโรคกับเสียงสีขาว หรือเสียงสีอื่นๆ กล่าวคือพวกมันอาจไม่ใช่คลื่นเสียงอันแสนสงบร่มเย็น ที่สามารถทำให้คนคนนั้นหลับลงได้ง่ายขึ้น

ฉะนั้นแล้ว ก่อนที่จะกดฟัง สิ่งที่เราต้องทำก็คือ การศึกษาเสียงสีเหล่านี้ให้ถ้วนถี่เสียก่อน เพื่อที่จะเลือกเสียงสี หรือกระทั่งวิธีการแก้อาการนอนไม่หลับที่เหมาะสมกับตัวเราเอง

อ้างอิง: Thairath Plus